อยู่ว่างๆ...มาเล่นเกมเป็นสัปเหร่อกันเถอะ!

          

          จะมาแนะนำเกมที่เราอินมาก (ก. ล้านตัว) ในช่วงที่กักตัวอยู่บ้าน เล่นมันทั้งวันทั้งคืน ติดมาก หากใครชอบแนวเกม Stardew valley ที่คล้าย Harvest moon เราขอแนะนำ Graveyard keeper แปลตรงๆก็คือ คนเฝ้าสุสานหรือสัปเหร่อนั่นเอง ซึ่งเกมนี้สามารถเล่นได้ทั้งในมือถือในในระบบ IOS และ Android และในคอมพิวเตอร์ผ่าน STEAM ได้ด้วย ซึ่งค่าเสียหายที่เราโดนไปในระบบ IOS ก็คือ 349 บาท แต่เราไปเช็คมาในระบบ Andriod เสียแค่ 300 บาท และยิ่งในคอมจะเหลือแค่ 289 บาท ทำไม? ไม่เข้าใจ (ฮา) ซึ่งแนวเกมก็จะเหมือน Stardew valley เลย แต่แค่เปลี่ยนอาชีพจาก เกษตรกร มาเป็น สัปเหร่อ ซึ่งก่อนลองเล่นก็คิดนะ ว่ามันจะหนุกมั้ย? เพราะด้วยราคาเกือบ 400 เราก็คิดแล้วคิดอีก แต่ด้วยความที่ช่วงนี้ว่างมาก เลยแบบ เออ! กดซื้อไปเลยจ้า แล้วมันก็เป็นการแบบซื้อขาดครั้งเดียว เพราะฉะนั้นเราว่ามันคุ้ม พอลองเล่นดู อั๊ยย่ะ มันดีกว่าที่คิดอีก 

          

          ขอบอกว่าใครเป็นคอเกมที่ชอบเล่นเกมแบบแนวอินดี้ เล่นเรื่อยๆ เสมือนไม่มีจุดจบ ขอบอกว่าเกมนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะเท่าที่เราเล่นมาเดือนกว่าแล้ว แต่เรายังเล่นเนื้อหาในเกมได้ไม่ครบเลยสักที (ฮา) เราบอกเลยว่าเกมนี้นั้นเป็นตัวเลือกที่เหมาะสุดๆ ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมที่ต้องอ่านเนื้อเรื่อง พูดจริงๆ ว่าต้องอ่าน! ไม่งั้นเล่นไม่รู้เรื่อง (ถ้าไม่ดูเฉลย) ถือว่า เกมนี้มีความยากและงงเหมือนกันในช่วงแรกๆที่เราเล่น กว่าจะจับทางถูก ก็ต้องใช้เวลาไปหลายวันเหมือนกัน เหย แต่ช่วงนี้เวลาเรามีถมเถนะ จะกลัวไร จริงมั้ย? ซึ่งเนื้อหาของเกมจะค่อยๆถูกเปิดเผย เมื่อเราทำเควสให้กับชาวบ้านและผี ซึ่งขอบอกเลยว่าเควสแต่ละคน มันไม่ง่ายอย่างแรง! ยิ่งถ้ามือใหม่ กว่าจะทำเควสสำเร็จแต่ละเควสนี่เหมือนอ้อมภูเขาวนไปวนมาอยู่เหมือนกัน

          โดยเริ่มแรกของเกมนั้น จะเป็นสตอรี่สั้นๆก่อนที่เราจะมาเป็นสัปเหร่อ ซึ่งจะเป็นโลกปัจจุบันที่เราถูกรถชน แล้วก็มาฟื้นมาเป็นสัปเหร่อในยุคที่คนยังล่าแม่มดกันอยู่เลย (ย้อนนานมั้ยล่ะ)  ซึ่งตัวเอกของเราเนี่ย ต้องหาทางย้อนกลับไปในโลกปัจจุบันให้ได้ ซึ่งโดยวิธีไหน เราขอไม่เฉลยละกัน เพราะเราอยากให้คุณไปลองเล่นเอง 

           มาดูกันที่ระบบในเกมแบบคร่าวๆกันดีกว่าว่ามีไรบ้าง แน่นอนว่าเราเป็นสัปเหร่อ เราก็ต้องมีหน้าที่ดูแลศพ โดยศพจะถูกขนส่งโดยลาพูดได้ ตามภาพประกอบที่ 2 

          ซึ่งศพนั่นเราสามารถแล่เอาอวัยวะของศพมาขาย ทำเป็นยา ชุดเกราะ กระดาษ หรือทำอาหาร (อี๋) ก็ได้ ที่จริงยังสามารถทำอะไรอย่างอื่นได้อีกมากมาย แต่เราขออุบไว้ (ฮา) ซึ่งพอเราแล่ของออกมาได้ เราก็ต้องนำไปฝังที่สุสานข้างบ้านเรา ซึ่งเป็นพื้นที่ของโบสถ์ ตามภาพประกอบที่ 3 

       

          แต่ว่า เดี๋ยวก่อน มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด ในการฝังศพสักหลุม เพราะด้วยความที่เป็นพื้นที่ของโบสถ์ แน่นอนว่ามันมีรายละเอียดมากกว่าที่คุณคิด เพราะโดยเมื่อเริ่มเกม ด้วยความที่โบสถ์ของเรานั้นถูกปล่อยทิ้งมานาน ค่าความศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่คือ ติดลบ สังเกตได้จากกระโหลกขาวที่แสดงด้านบนขวา ในภาพประกอบที่ 3 แสดงว่าการที่เราจะเปิดโบสถ์ได้ เราต้องเพิ่มค่าความศักดิ์ในพื้นที่อย่างน้อยคือ 5 ซึ่งตรงส่วนนี้จะเป็นเควสหนึ่งที่เราได้บาทหลวงในพื้นที่ 

         "ค่าความศักดิ์สิทธิ์มาจากไหน?"  ก็มาจากศพนั่นแหละ เพราะศพแต่ละศพเมื่อผ่านการแล่ออกแล้ว (แหวะ) ถ้าคุณภาพของศพที่ดีนั้น จะมีค่ากระโหลกขาวเยอะกว่ากระโหลกแดง แต่ถ้าสมมุติว่าเรายังวางศพไว้นาน ค่าคุณภาพของศพก็จะลดลงและส่งผลให้มีกระโหลกแดงเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็จะไม่เป็นผลดีต่อสุสานของเรานั่นเอง แต่ว่าด้วยความที่สุสานของเราเนี่ย มีพื้นที่ฝังศพที่จำกัด เราไม่สามารถฝังศพได้ทุกศพ เราก็จะเลือกเฉพาะศพที่ดี ส่วนศพอื่น เราสามารถกำจัดโดยการโยนน้ำหรือเผาก็ได้ 

          

         แต่ถ้าเราเบื่อกับอะไรที่ "อี๋" และ "แหวะ" ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมาทำสวนแบบชิลๆได้อีกเช่นเดียวกัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นสัปเหร่อ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องดูแลแต่ศพ ถูกมั้ยล่ะ? เพราะในบริเวณบ้านของเราก็มีพื้นที่เพาะปลูก ที่เราสามารถปลูกสารพัดผักได้ ไม่ว่าจะเป็น แครอท ฟักทอง ผักกาด และอื่นๆอีกมากมาย และยังสามารถนำพืชผลเหล่านี้ไปแปรรูปได้อีกต่างหาก หรือถ้าเบื่อจากปลูกผักก็สามารถไปตกปลา เก็บของป่า หรือไปสู้สัตว์ประหลาดในป่าก็ได้ เรียกได้ว่าเกมนี้ คงเป็นเกมที่เราคงจะไม่เบื่อง่ายๆ

          

          ซึ่งส่วนที่สนุกของเกมไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเมื่อเรายิ่งเล่น เราก็ยิ่งมีค่าประสบการณ์มากขึ้นที่สามารถนำไปปลดล๊อคความสามารถของเราในด้านต่างๆได้ จะเห็นได้จากภาพประกอบที่ 7 ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในงานช่าง งานฝีมือ ความสามารถในการแล่อวัยวะจากศพทีมากขึ้น ความสามารถในด้านเกษตรกรรม การทำคัมภีร์ เป็นต้น เมื่อเราปลดล็อค เนื้อเรื่องที่เราจะเล่นภายในเกมก็มีมากขึ้น เพราะเราสามารถคราฟต์ของต่างๆได้มากขึ้น

         

          และสามารถนำไปขายในเมืองได้ นั่นก็หมายความว่าเราจะรวยขึ้นและถ้าเราคราฟต์ของที่เกี่ยวกับศาสนา เช่น คัมภีร์ เราก็สามารถนำคัมภีร์ที่เราคราฟต์ขึ้นมาไปเทศน์ในโบสถ์ที่เปิดแล้วได้ โดยจะสามารถเพิ่มค่าความศรัทธาของคนที่มาโบสถ์และเพิ่มเงินของผู้บริจาคเงินให้โบสถ์ได้ (อย่างเจ๋ง) ซึ่งค่าความศรัทธาก็สามารถนำเรียนรู้ได้ที่โต๊ะเรียนที่ชั้นใต้ดินของโบสถ์ เพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ทางจิตวิญญาณและสามารถนำไปปลดล็อคค่าความสามารถทางจิตวิญญาณอื่นๆได้อีกด้วย (แหม่ คนสร้างไอเดียดีจริงๆ) 

           ขอบอกเลยว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มของเกมนี้ ถ้าอยากจะลิ้มรสเนื้อเน้นๆ เราบอกเลยว่าคุณต้องลองไปเล่นเอง เพราะเกมนี้คงจบไม่ได้ง่ายๆ และที่สำคัญมันยังสามารถซื้อส่วนประกอบเสริมเนื้อหาในเกมได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น Graveyard keeper breaking dead หรือจะเป็น Graveyard keeper stranger sin ที่เป็นเนื้อหาเสริมของเรื่องหลักที่ว่าด้วยคำสาปของเมืองนี้ ที่เกี่ยวข้องกับอักขระโบราณ บอกเลยว่าเกมนี้เป็นเกมที่เราไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก STEAM